ขอส่งงบการเงินระหว่างกาล ไตรมาส 1/2539
29 May 1996
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ----------------------------------------------------------------- ----------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาล
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี ----------------------------------------------------------------- ----------------------------------------------------------------- -----------------------------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 และ งบกำไรขาดทุน สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละงวดของ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความ เข้าใจเกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบ ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่ เกี่ยวข้องทางการเงินและบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบ ตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป เพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้
ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งอาจจะต้องนำมาปรับปรุงงบการเงิน ระหว่างกาลนี้ ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของ ข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายธวัช ภูษิตโภยไคย)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 1724 กรุงเทพมหานคร 20 พฤษภาคม 2539
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2539 2538 สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะสั้นในตั๋วสัญญาใช้เงิน 946,294 -
ลูกหนี้การค้า - สุทธิ 958,300 857,878
สินค้าคงเหลือ - สุทธิ 1,101,120 1,217,411
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 1) 553,816 323,244
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 686,416 229,703
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 4,245,946 2,628,236
เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม - วิธีส่วนได้เสีย
(หมายเหตุ 1) 2,717,510 1,941,638
เงินลงทุนในบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน - ในราคาทุน
(หมายเหตุ 1) 471,164 221,182
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 395,562 238,258
สินทรัพย์อื่น (หมายเหตุ 3) 156,004 76,265
รวมสินทรัพย์ 7,986,186 5,105,579
โปรดดูรายงานการสอบทานของนายธวัช ภูษิตโภยไคย
ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2539 2538 หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 1,493,639 1,047,442
เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่าย 246,586 421,567
เจ้าหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 1) 239,444 166,100
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 359,638 354,138
รวมหนี้สินหมุนเวียน 2,339,307 1,989,247
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ครบกำหนดชำระ
ภายในหนึ่งปี (หมายเหตุ 3) - 230,429
รายได้รอการตัดบัญชี - สุทธิ (หมายเหตุ 3) - 112,777
หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินต่างประเทศ(หมายเหตุ 4 และ 5)2,455,000 -
เงินทุนเลี้ยงชีพพนักงาน 54,530 42,971
รวมหนี้สิน 4,848,837 2,375,424
ส่วนของผู้ถือหุ้น (หมายเหตุ 3 และ 5) 3,137,349 2,730,155
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 7,986,186 5,105,579
โปรดดูรายงานการสอบทานของนายธวัช ภูษิตโภยไคย
ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
งบกำไรขาดทุน
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
พันบาท
2539 2538 รายได้ (หมายเหตุ 1)
ขายผลิตภัณฑ์และบริการ 699,180 776,203
ส่วนได้เสียในกำไรของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม - สุทธิ 84,793 80,192
ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่น (หมายเหตุ 3) 343,943 93,272
รวมรายได้ 1,127,916 949,667 ต้นทุนและค่าใช้จ่าย (หมายเหตุ 1)
ต้นทุนขายและบริการ 588,275 640,835
ค่าใช้จ่ายอื่น (หมายเหตุ 3) 335,473 207,688
ภาษีเงินได้ (หมายเหตุ 6) 29,966 -
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 953,714 848,523
กำไรสุทธิ 174,202 101,144
กำไรต่อหุ้น (บาท) 4.36 2.53
โปรดดูรายงานการสอบทานของนายธวัช ภูษิตโภยไคย
ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
วันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538
1. รายการบัญชีกับบริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน
รายการธุรกิจบางส่วนของบริษัทมีความเกี่ยวพันกับบริษัทย่อยบริษัทร่วมและ บริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน งบการเงินระหว่างกาลนี้ได้รวมผลของรายการดังกล่าว ตามเกณฑ์ที่ตกลงร่วมกันระหว่างบริษัทและบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันดังกล่าว
2. กำไรต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้นสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 คำนวณโดยการหารกำไรสุทธิด้วยจำนวนหุ้นที่ได้รับชำระแล้ว ณ วันที่ในงบดุล
3. เงินกู้ยืมระยะยาว รายได้และค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชี
ในเดือนมีนาคม 2536 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารในประเทศ แห่งหนึ่งเพื่อการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นเงินประมาณ 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามเงื่อนไขของสัญญาดังกล่าว บริษัทจะจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืม นี้เพียงร้อยละ 65 ส่วนจำนวนเงินกู้ยืมอีกร้อยละ 35 ของวงเงินกู้ให้ถือเป็นเงิน ให้เปล่า เว้นแต่กรณีบริษัทผิดเงื่อนไขในสัญญา เงินกู้นี้มีดอกเบี้ยตามอัตรา LONDON INTERBANK OFFERED RATE (LIBOR) บวกร้อยละ 2.775 ต่อปี และ มีกำหนด ชำระคืนเป็นงวดทุกงวดหกเดือนรวม 20 งวด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2537
บริษัทถือปฏิบัติในการบันทึกเงินต้นจากการกู้ยืมเงินจากวงเงินกู้ยืมดังกล่าวเพียง ร้อยละ 65 ของเงินกู้ที่เบิกใช้ในแต่ละคราว และบันทึกจำนวนที่เหลืออีกร้อยละ 35 ซึ่งถือเป็นเงินให้เปล่าไว้ในบัญชี รายได้รอตัดบัญชี ในงบดุล เนื่องจากฝ่ายบริหาร เชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับเงินให้เปล่าตามที่ระบุไว้ในสัญญาได้ นอกจากนี้ภายใต้เงื่อนไขตามสัญญาดังกล่าวบริษัทได้จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้ จำนวน 12 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกไว้เป็น ค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชี และแสดงไว้เป็นส่วนหนึ่ง ของสินทรัพย์อื่นในงบดุล รายได้รอตัดบัญชีและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้รอตัดบัญชี นี้จะทยอยรับรู้เป็นรายได้และค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญาเงินกู้
- 2 -
ในระหว่างไตรมาสที่ 1 ของปี 2539 บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวทั้งจำนวน ก่อนกำหนดเป็นจำนวนเงินรวมเทียบเท่าประมาณ 454.2 ล้านบาท (รวมค่าธรรมเนียม การชำระคืน เงินกู้ก่อนกำหนดจำนวน 4.3 ล้านบาท) และบันทึกยอดคงเหลือที่ยังไม่ตัด บัญชีของรายได้และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้รอตัดบัญชีเป็นรายได้และค่าใช้จ่ายทั้ง จำนวนในงบกำไรขาดทุน
4. หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินต่างประเทศ
ในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2538 บริษัทออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินต่าง ประเทศจำหน่ายในต่างประเทศในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 100 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (แบ่งเป็น 100,000 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา) หรือเทียบเท่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดไว้ คงที่เมื่อแปลงสภาพหรือไถ่ถอนเท่ากับ 2,455 ล้านบาท หุ้นกู้นี้มีดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.5 ต่อปี ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทได้ไม่เกิน วันที่ 20 มีนาคม 2548 ในราคาแปลงสภาพตามที่ได้กำหนดไว้ หรือครบกำหนดไถ่ถอน ในวันที่ 20 เมษายน 2548 ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ผู้ถือหุ้นกู้ สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัท ณ เวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ใน ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2538 ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2548 หรือใช้สิทธิไถ่ถอน หุ้นกู้ก่อนกำหนดในวันที่ 20 เมษายน 2543 ทั้งนี้ต้องเข้าเงื่อนไขและข้อกำหนด บางประการตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน นอกจากนี้บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอน หุ้นกู้บางส่วนหรือทั้งหมดก่อนกำหนดได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2541 จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2543 ถ้าเข้าเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ ในการนี้บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข และข้อกำหนดบางประการที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
เกี่ยวเนื่องกับการออกหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2538 ผู้ถือหุ้นมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะบียนของบริษัทจาก 400 ล้านบาท (แบ่งเป็น 40 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท)เป็น 460 ล้านบาท (แบ่งเป็น 46 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยให้สำรองหุ้นสามัญ จำนวน 6 ล้านหุ้นที่เพิ่มนี้ เพื่อรองรับ การใช้สิทธิในการแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญ บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนดังกล่าวกับ กระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2538
- 3 -
5. ทุนเรือนหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินต่างประเทศ
ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2539 ผู้ถือหุ้นได้มีมติดังนี้
ก) ให้บริษัทออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ในวงเงิน ไม่เกิน 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอายุไม่เกิน 10 ปี เพื่อเสนอขายแก่ผู้ลงทุน ต่างประเทศทั้งจำนวนโดยให้สิทธิ ในการไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพคืนก่อนครบกำหนด แก่ผู้ถือหุ้นแปลงสภาพ (Put Option) ทั้งนี้ บริษัทจะนำหุ้นกู้ชนิดแปลงสภาพดังกล่าว เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 บริษัทยังไม่ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น
ข) ให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 460 ล้านบาท (แบ่งเป็น 46 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 520 ล้านบาท (แบ่งเป็น 52 ล้านหุ้น มูลค่า หุ้นละ 10 บาท) และให้สำรองหุ้นสามัญ จำนวน 6 ล้านหุ้นที่เพิ่มนี้ เพื่อรองรับ การใช้สิทธิในการแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญบริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนกับกระทรวง พาณิชย์ แล้วเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2539
6. ภาษีเงินได้
บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในรอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2538 เป็นผลเนื่อง มาจากความแตกต่างในการบันทึกรายได้และความแตกต่างของเวลา ในการบันทึกค่าใช้จ่ายระหว่างรายงานทางการเงินและรายงานทางภาษี ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากเงินปันผลและค่าธรรมเนียมในการออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตรา ต่างประเทศ
7. เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน
ในการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2539 ผู้ถือหุ้นได้มีมติ อนุมัติ ให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2538 เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 140,000,000 บาท (ในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 บริษัทยังไม่ได้บันทึกเงินปันผลที่ประกาศจ่ายนี้ไว้ในบัญชี
- 4 -
8. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 บริษัทมี
ก. เลตเตอร์ออฟเครดิตที่ยังไม่ได้ใช้เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,357.61 ล้านบาท
ข. หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าจากการประกันการประมูลงานกับ ลูกค้าเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 742.39 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ให้ธนาคารออกหนังสือ ค้ำประกันเพื่อค้ำประกันการประมูลงานดังกล่าว
ค. ภาระผูกพันภายใต้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับธนาคาร บางแห่งเป็นจำนวนเงินเทียบเท่าประมาณ 225.51 ล้านบาท