งบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือน ปี2539
28 November 1996
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
-----------------------------------------------------------------
-----------------------------------------
งบการเงินระหว่างกาล
สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------
-------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ คณะกรรมการบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และงบกำไรขาดทุนสำหรับ
งวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด(มหาชน) ส่วน
งบการเงินของบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 ที่นำมาแสดงเปรียบเทียบสอบทานโดยนายธวัช ภูษิตโภยไคย
ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีในสำนักงานเดียวกันกับข้าพเจ้า การสอบทานดังกล่าวกระทำตามมาตรฐาน
ที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการทำความเข้าใจ
เกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์
ข้อมูลทางการเงินและการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงินและ
บัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรอง
ทั่วไป เพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็น
ต่องบการเงินที่สอบทานได้
บริษัทบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมตามวิธีส่วนได้เสีย อย่างไรก็ตาม
ส่วนได้เสียในผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมบางแห่งที่แสดงรวมไว้ในงบกำไรขาดทุน
สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 ซึ่งคิด
เป็นร้อยละ 17.05 และ 24.99 ของกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันเดียวกัน
ของแต่ละปีคำนวณตามงบการเงินที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ/ สอบทานโดยผู้สอบบัญชี
ยกเว้นเรื่องที่กล่าวในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญอื่นซึ่ง
อาจจะต้องนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
จากการสอบทานของข้าพเจ้าดังกล่าวข้างต้น
(นายวิเชียร ธรรมตระกูล)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 3183
กรุงเทพมหานคร
20 พฤศจิกายน 2539
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
สิ น ท รั พ ย์
พันบาท
2539 2538
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะสั้นในตั๋วสัญญาใช้เงิน 1,851,527 1,186,611
ลูกหนี้การค้า - สุทธิ (หมายเหตุ 3) 855,736 1,145,146
สินค้าคงเหลือ - สุทธิ (หมายเหตุ 3) 1,386,192 1,049,422
ลูกหนี้และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
(หมายเหตุ 1) 511,771 529,133
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 545,882 349,678
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 5,151,108 4,259,990
เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม - วิธีส่วนได้เสีย
(หมายเหตุ 1) 3,589,444 2,210,324
เงินลงทุนในบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน - ในราคาทุน
(หมายเหตุ 1) 742,856 368,327
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 489,349 281,112
สินทรัพย์อื่น (หมายเหตุ 4) 214,521 155,499
รวมสินทรัพย์ 10,187,278 7,275,252
โปรดดูรายงานการสอบทานของนายวิเชียร ธรรมตระกูล
ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
พันบาท
2539 2538
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร 492,713 426,938
เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่าย 401,703 193,059
เจ้าหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 1) 234,108 179,856
หนี้สินหมุนเวียนอื่น (หมายเหตุ 3) 410,048 453,674
รวมหนี้สินหมุนเวียน 1,538,572 1,253,527
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ครบกำหนดชำระ
ภายในหนึ่งปี (หมายเหตุ 4) - 398,853
รายได้รอการตัดบัญชี - สุทธิ (หมายเหตุ 4) - 233,785
หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินต่างประเทศ(หมายเหตุ 5) 5,105,855 2,455,000
เงินทุนเลี้ยงชีพพนักงาน 63,775 50,016
หนี้สินอื่น 228,975 -
รวมหนี้สิน 6,937,177 4,391,181
ส่วนของผู้ถือหุ้น (หมายเหตุ 5) 3,250,101 2,884,071
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 10,187,278 7,275,252
โปรดดูรายงานการสอบทานของนายวิเชียร ธรรมตระกูล
ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
ยังไม่ได้ตรวจสอบ
สอบทานแล้ว
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
งบกำไรขาดทุน
สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
พันบาท
งวดสามเดือน งวดเก้าเดือน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน
2539 2538 2539 2538
รายได้ (หมายเหตุ 1)
ขายผลิตภัณฑ์และบริการ 927,828 1,235,961 2,849,001 3,009,682
ส่วนได้เสียในผลการดำเนินงานของ
บริษัทย่อยและบริษัทร่วม - สุทธิ 139,993 85,169 337,783 284,991
ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่น
(หมายเหตุ 4) 211,754 139,456 1,016,339 322,356
รวมรายได้ 1,279,575 1,460,586 4,203,123 3,617,029
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย (หมายเหตุ 1)
ต้นทุนขายและบริการ 785,978 1,077,011 2,382,839 2,526,601
ค่าใช้จ่ายอื่น (หมายเหตุ 4) 408,990 274,880 1,294,400 715,368
ภาษีเงินได้ (หมายเหตุ 6) (9,690) - 98,930 -
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 1,185,278 1,351,891 3,776,169 3,241,969
กำไรสุทธิ 94,297 108,695 426,954 375,060
กำไรต่อหุ้น (บาท) 2.36 2.72 10.67 9.38
โปรดดูรายงานการสอบทานของนายวิเชียร ธรรมตระกูล
ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล
วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
1. รายการบัญชีกับบริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกัน
รายการธุรกิจบางส่วนของบริษัทมีความเกี่ยวพันกับบริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัท
อื่นที่เกี่ยวข้องกัน งบการเงินระหว่างกาลนี้ได้รวมผลของรายการดังกล่าวตามเกณฑ์ที่ตกลง
ร่วมกันระหว่างบริษัทและบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันดังกล่าว
2. กำไรต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้นคำนวณโดยการหารกำไรสุทธิด้วยจำนวนหุ้นที่ได้รับชำระแล้ว ณ วันที่ใน
งบดุล
3. ลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือ
ลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือส่วนที่เป็นงานระหว่างการติดตั้งส่วนหนึ่งเป็นรายการ
ที่เกิดกับหน่วยงานราชการ ซึ่งใช้เวลาในการติดตั้งมากกว่าหนึ่งปี ทั้งนี้ บริษัทได้รับเงิน
ล่วงหน้าจากลูกค้าแล้วส่วนหนึ่ง
4. เงินกู้ยืมระยะยาว รายได้และค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชี
ในเดือนมีนาคม 2536 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารในประเทศแห่งหนึ่งเพื่อ
นำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นเงินประมาณ 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามเงื่อนไข
ของสัญญาดังกล่าว บริษัทจะจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมนี้เพียงร้อยละ 65 ส่วนจำนวนเงินกู้ยืมอีก
ร้อยละ 35 ของวงเงินกู้ให้ถือเป็นเงินให้เปล่า เว้นแต่กรณีบริษัทผิดเงื่อนไขในสัญญา เงินกู้
นี้มีดอกเบี้ยตามอัตรา LONDON INTERBANK OFFERED RATE (LIBOR)บวกร้อยละ 2.775
ต่อปี และ มีกำหนดชำระคืนเป็นงวดทุกงวดหกเดือนรวม 20 งวด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15
กันยายน 2537
- 2 -
บริษัทถือปฏิบัติในการบันทึกเงินต้นจากการกู้ยืมเงินจากวงเงินกู้ยืมดังกล่าวเพียง
ร้อยละ 65 ของเงินกู้ที่เบิกใช้ในแต่ละคราว และบันทึกจำนวนที่เหลืออีกร้อยละ 35
ซึ่งถือเป็นเงินให้เปล่าไว้ในบัญชี "รายได้รอตัดบัญชี" ในงบดุล เนื่องจากฝ่ายบริหาร
เชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับเงินให้เปล่าตามที่ระบุไว้ในสัญญาได้
นอกจากนี้ภายใต้เงื่อนไขตามสัญญาดังกล่าวบริษัทได้จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้
จำนวน 12 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกไว้เป็นค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชี และแสดงไว้เป็นส่วนหนึ่ง
ของสินทรัพย์อื่นในงบดุล รายได้รอตัดบัญชีและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้รอตัดบัญชีนี้
จะทยอยรับรู้เป็นรายได้และค่าใช้จ่ายตามอายุของสัญญาเงินกู้
ในระหว่างไตรมาสที่ 1 ของปี 2539 บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวทั้งจำนวน
ก่อนกำหนดเป็นจำนวนเงินรวมเทียบเท่าประมาณ 454.2 ล้านบาท (รวมค่าธรรมเนียม
การชำระคืน เงินกู้ก่อนกำหนดจำนวน 4.3 ล้านบาท) และปรับปรุงยอดคงเหลือที่ยัง
ไม่ตัดบัญชีของรายได้และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้รอตัดบัญชีเป็นรายได้และค่าใช้จ่าย
ทั้งจำนวนในงบกำไรขาดทุน
5. หุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินต่างประเทศ
ในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2538 บริษัทออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงิน
ต่างประเทศจำหน่ายในต่างประเทศในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 100
ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (แบ่งเป็น 100,000 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000
เหรียญสหรัฐอเมริกา) หรือเทียบเท่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดไว้คงที่
เมื่อแปลงสภาพหรือไถ่ถอนเท่ากับ 2,455 ล้านบาท หุ้นกู้นี้มีดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ
3.5 ต่อปี โดยจะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 20 เมษายน 2548 ในราคาไถ่ถอนและ
อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นกู้สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้
เป็นหุ้นสามัญของบริษัทในราคาแปลงสภาพและอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่กำหนด ณ เวลาใด
เวลาหนึ่งก็ได้ในระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2538 ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2548 หรือใช้
สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดในวันที่ 20 เมษายน 2543 ทั้งนี้ต้องเข้าเงื่อนไขและข้อกำหนด
บางประการตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน นอกจากนี้บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้
บางส่วนหรือทั้งหมดก่อนกำหนดได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2541 จนถึงวันที่ 20
เมษายน 2543 ถ้าเข้าเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ ในการนี้บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและ
ข้อกำหนดบางประการที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
- 3 -
ในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2539 บริษัทออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตรา
ต่างประเทศจำหน่ายในต่างประเทศเพิ่มเติมในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น
105 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (แบ่งเป็น 105,000 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
1,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา) หรือเทียบเท่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนด
ไว้คงที่เมื่อแปลงสภาพเท่ากับ 2,646 ล้านบาท หุ้นกู้นี้มีดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี
โดยจะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 4 เมษายน 2544 อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นกู้สามารถใช้
สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทในราคาแปลงสภาพและอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่
กำหนด ณ เวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ในระหว่างวันที่ 4 กรกฎาคม 2539 ถึงวันที่ 4 มีนาคม
2544 นอกจากนี้ บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้บางส่วนหรือทั้งหมดก่อนกำหนดได้ตั้งแต่
เดือนเมษายน 2542 จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2543 ถ้าเข้าเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้
ในการนี้บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
เกี่ยวเนื่องกับการออกหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 11
มกราคม 2538 ผู้ถือหุ้นมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะบียนของบริษัทจาก 400 ล้านบาท
(แบ่งเป็น 40 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) เป็น 460 ล้านบาท (แบ่งเป็น 46
ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) และต่อมาได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2539 ให้เพิ่ม
ทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 460 ล้านบาท (แบ่งเป็น 46 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท)
เป็น 520 ล้านบาท (แบ่งเป็น 52 ล้านหุ้น มูลค่า หุ้นละ 10 บาท)โดยให้สำรองหุ้นสามัญ
จำนวนรวม 12 ล้านหุ้นที่เพิ่มนี้ เพื่อรองรับการใช้สิทธิ ในการแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญ
บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2538 และ
วันที่ 20 มีนาคม 2539 ตามลำดับ
6. ภาษีเงินได้
บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในรอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 เนื่องจาก
ความแตกต่างในการบันทึกรายได้และความแตกต่างของเวลาในการบันทึกค่าใช้จ่ายระหว่าง
รายงานทางการเงินและรายงานทางภาษี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากเงินปันผลและค่าธรรมเนียม
ในการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
7. เงินปันผล
ในที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2539 และวันที่ 25 เมษายน 2538
ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจำนวนรวม 140 ล้านบาท ในปี 2539 และ 120 ล้านบาท
ในปี 2538 (อัตราหุ้นละ 3.50 บาท และ 3 บาท ตามลำดับ)
- 4 -
8. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 บริษัทมี
ก. เลตเตอร์ออฟเครดิตที่ยังไม่ได้ใช้เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,116.59 ล้านบาท
ข. หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าจากการประกันการประมูลงานกับลูกค้าเป็นจำนวนเงิน
รวมประมาณ 712.45 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันเพื่อค้ำประกันการ
ประมูลงานดังกล่าว
ค. ภาระผูกพันภายใต้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับธนาคารบางแห่งเป็น
จำนวนเงินเทียบเท่าประมาณ 0.69 ล้านบ