บการเงินบริษัทล็อกซเล่ย์ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
25 March 1997
- 10 -
ในระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2539 บริษัทออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตราต่างประเทศ
จำหน่ายในต่างประเทศเพิ่มเติมในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 105 ล้านเหรียญสหรัฐ
อเมริกา (แบ่งเป็น 105,000 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา) หรือ
เทียบเท่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดไว้คงที่เมื่อครบกำหนดแปลงสภาพเท่ากับ 2,646
ล้านบาท หุ้นกู้นี้มีดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี โดยจะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 4 เมษายน 2544
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นกู้สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทในราคาแปลงสภาพหุ้นละ
450 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ในระหว่างวันที่ 4 กรกฎาคม 2539 ถึงวันที่ 4 มีนาคม 2544
นอกจากนี้ บริษัทสามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้บางส่วนหรือทั้งหมดก่อนกำหนดได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2542
จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2543 ในราคาบวกส่วนเพิ่มแล้วรวมเป็นหุ้นละ 1,210 เหรียญสหรัฐอเมริกา
ในปี 2543 และ 1,272 เหรียญสหรัฐอเมริกา ในปี 2544 ทั้งนี้บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อ
กำหนดที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
เกี่ยวเนื่องกับการออกหุ้นกู้ดังกล่าวข้างต้น ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2538
ผู้ถือหุ้นมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 400 ล้านบาท (แบ่งเป็น 40 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ
10 บาท) เป็น 460 ล้านบาท (แบ่งเป็น 46 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) และต่อมาได้มีมติเมื่อวันที่
18 มีนาคม 2539 ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 460 ล้านบาท (แบ่งเป็น 46 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ
10 บาท) เป็น 520 ล้านบาท (แบ่งเป็น 52 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยให้สำรองหุ้นสามัญ
จำนวนรวม 12 ล้านหุ้นที่เพิ่มนี้ เพื่อรองรับการใช้สิทธิใน การแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญ บริษัทได้
จดทะเบียนมติเพิ่มทุนดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2538 และวันที่ 20 มีนาคม
2539 ตามลำดับ
ในปี 2539 ราคาตลาดของหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยทั่วไป รวมทั้งของ
บริษัทตกต่ำอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่ผู้ถือหุ้นกู้อาจไม่นำหุ้นกู้มาแปลงสภาพ ตามจำนวนที่ประมาณไว้
ทั้งหมด ดังนั้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 บริษัทจึงบันทึกตั้งสำรอง ค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับ
ส่วนเพิ่มที่จะต้องจ่ายหากผู้ถือหุ้นกู้ใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด เป็นจำนวนเงินประมาณ 303 ล้านบาท ซึ่ง
คิดเป็นร้อยละ 80 ของส่วนเพิ่มทั้งหมดที่ต้องจ่าย หากผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมดใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดเฉลี่ยตาม
ระยะเวลาที่ให้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด ฝ่ายบริหารเชื่อว่าสำรองจำนวนดังกล่าวเพียงพอ เนื่องจากราคา
ตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทในปัจจุบันเป็นราคาในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่ในภาวะตกต่ำ
ผิดปกติและช่วงเวลาของการใช้สิทธิแปลงสภาพก่อนกำหนดที่จะมีผลใช้บังคับยังมีเวลาอีกประมาณ 3 ปี
สำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งที่ 1 และ 4 ปี สำหรับหุ้นกู้แปลงภาพครั้งที่ 2
- 11 -
11. เงินทุนเลี้ยงชีพพนักงาน
บริษัทจัดให้มีเงินกองทุนเลี้ยงชีพประเภทจ่ายสมทบสำหรับพนักงานเกือบทั้งหมด พนักงานจะ
เข้าเป็นสมาชิกได้เมื่อเป็นพนักงานประจำแล้ว ทั้งนี้พนักงานจะจ่ายเข้ากองทุนทุกเดือนเท่ากับร้อยละ
5 ของเงินเดือน และบริษัทจะตั้งสำรองเป็นรายเดือนในอัตราต่าง ๆ กันของเงินเดือนพนักงาน ซึ่ง
ขึ้นอยู่กับระยะเวลาทำงานของพนักงานแต่ละคน ยอดที่บริษัทตั้งสำรองสำหรับปีและบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินงานมีจำนวนเงินประมาณ 11.3 ล้านบาทในปี 2539 และ 9.1 ล้านบาทในปี 2538
12. ทุนสำรอง
บัญชีนี้ได้แก่ เงินสำรองที่บริษัทจัดสรรสะสมตามพระราชบัญญัติกฎหมายมหาชนซึ่งกำหนดให้
บริษัทจัดสรรทุนสำรองอย่างน้อยร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิสำหรับปีหลังจากหักยอดขาดทุนสะสมต้นปี
(ถ้ามี) จนกว่าทุนสำรองจะมียอดเป็นร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนของบริษัททุนสำรองนี้จะนำไป
จ่ายเป็นเงินปันผลไม่ได้
13. ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่น
บัญชีนี้ประกอบด้วย
บา ท
2539 2538
กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน 878,398,623 56,113,046
ดอกเบี้ยรับ 232,267,961 136,716,221
ค่าธรรมเนียม ค่าบริการและอื่น ๆ 538,057,069 217,297,812
รวม 1,648,723,653 410,127,079
- 12 -
14. ภาษีเงินได้
บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในปี 2538 เป็นผลเนื่องมาจากความแตกต่างในการบันทึก
รายได้และความแตกต่างของเวลาในการบันทึกค่าใช้จ่ายระหว่างรายงานทางการเงินและรายงาน
ทางภาษี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากเงินปันผลและค่าธรรมเนียมในการออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินตรา
ต่างประเทศ
15. ข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน
รายละเอียดข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน สำหรับปี 2539 และ 2538 มีดังนี้
ล้านบาท
ธุรกิจสายการค้า-
ธุรกิจสายระบบสารสนเทศ อุตสาหกรรม อื่น ๆ รวม
2539 2538 2539 2538 2539 2538 2539 2538
ขายสุทธิ 2,355 2,353 1,325 1,646 425 186 4,105 4,185
ต้นทุนขาย (1,994) (1,904) (1,147) (1,421) (371) (154) (3,512) (3,479)
กำไรขั้นต้น 361 449 178 225 54 32 593 706
กำไรจากการดำเนินงาน 179 230 16 91 1,235 242 1,430 563
ส่วนได้เสียในผลการ
ดำเนินงานของ
บริษัทย่อยและ
บริษัทร่วม - สุทธิ 411 384
เงินปันผลรับจากเงิน
ลงทุนในบริษัทอื่น 71 75
ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง (761) (406)
ดอกเบี้ยจ่าย (514) (162)
ภาษีเงินได้ (166) -
กำไรสุทธิ 471 454
สินทรัพย์ถาวร - สุทธิ 44 51 14 13 472 314 530 378
สินทรัพย์อื่น 10,087 7,172
สินทรัพย์รวม 10,617 7,550
- 13 -
บริษัทประกอบธุรกิจ 2 ประเภทหลัก กล่าวคือ ธุรกิจสายระบบสารสนเทศ และธุรกิจสายการค้า
อุตสาหกรรม
กำไรจากการดำเนินงานของแต่ละส่วนงานเกิดขึ้นจากยอดรายได้รวมหักด้วยต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินงาน โดยค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ไม่ได้รวมอยู่ในการคำนวณกำไร
จากการดำเนินงานของส่วนงาน
สินทรัพย์ถาวรของแต่ละส่วนงานเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินงานของส่วนงานนั้นๆ ส่วน
สินทรัพย์อื่นๆ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเงินสดและเงินฝากธนาคาร สินค้าคงเหลือและเงินลงทุนใน
หลักทรัพย์อื่น
16. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
ณ วันที่ 31 ธันวาคม บริษัทมี
ก.เลตเตอร์ออฟเครดิตที่ยังไม่ได้ใช้เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 1,264 ล้านบาทในปี 2539
และ 1,251 ล้านบาท ในปี 2538
ข. หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าจากการประกันการประมูลงานกับลูกค้าเป็นจำนวนเงินรวม
ประมาณ 608 ล้านบาท ในปี 2539 และ 651 ล้านบาทในปี 2538 ซึ่งบริษัทได้ให้ธนาคารออกหนังสือ
ค้ำประกันเพื่อค้ำประกันการประมูลงานดังกล่าว