การเงินระหว่างกาล สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2543
15 August 2000
กำไรขั้นต้น 143 158 70 114 17 20 230 292
กำไรจากการ
ดำเนินงาน 49 60 33 85 79 120 161 265
เงินปันผลรับจากเงิน
ลงทุนในบริษัทอื่น 19 19
ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ( 180) ( 151)
ดอกเบี้ยจ่าย ( 147) ( 144)
ค่าตอบแทนกรรมการ ( 2) ( 1)
ค่าใช้จ่ายอื่น ( 205) ( 178)
ส่วนได้เสียในผลการ
ดำเนินงานของ
บริษัทย่อยและ
บริษัทร่วม - สุทธิ 113 202
ขาดทุนจาก
อัตราแลกเปลี่ยน ( 377) ( 17)
ภาษีเงินได้ - 57
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ ( 618) 52
สินทรัพย์ถาวร - สุทธิ 56 62 13 20 483 556 552 638
สินทรัพย์อื่น 10,128 10,764
สินทรัพย์รวม 10,680 11,402
บริษัทและบริษัทย่อยประกอบธุรกิจ 2 ประเภทหลัก กล่าวคือ ธุรกิจสายระบบสารสนเทศ และธุรกิจสายการค้า
อุตสาหกรรม
กำไรจากการดำเนินงานของแต่ละส่วนงานเกิดขึ้นจากยอดรายได้รวมหักด้วยต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
โดยค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ดอกเบี้ยจ่าย ค่าตอบแทนกรรมการค่าใช้จ่ายอื่นและภาษีเงินได้ไม่ได้รวมอยู่ในการคำนวณกำไรจาก
การดำเนินงานของส่วนงาน
สินทรัพย์ถาวรของแต่ละส่วนงานเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินงานของส่วนงานนั้น ๆ ส่วนสินทรัพย์อื่น ๆ ส่วนใหญ่
ประกอบด้วยเงินสดและเงินฝากธนาคาร สินค้าคงเหลือและเงินลงทุนในหลักทรัพย์อื่น
- 26 -
6.11 สัญญา
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 และ 2542
ก) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งมีสัญญากับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) โดยได้รับสัมปทานการให้
บริการวิทยุติดตามตัวภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา บริษัทย่อยมีภาระผูกพันที่จะต้องโอน
กรรมสิทธิ์ในอุปกรณ์การสื่อสารให้องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยโดยมีสิทธิใช้อุปกรณ์ดังกล่าวตลอดอายุของสัมปทานและ
ต้องจ่ายผลประโยชน์ให้กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในอัตราที่ระบุในสัญญา บริษัทย่อยได้มอบหนังสือค้ำประกัน
ธนาคารเป็นจำนวนเงิน 141.1 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันแก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ส่วนหนึ่งของหนังสือ
ค้ำประกันธนาคารนี้ค้ำประกันโดยเงินฝากประจำจำนวนเงินประมาณ 18.8 ล้านบาท
ข) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งมีสัญญาร่วมลงทุนในการให้บริการรับ-ส่งสัญญาณโทรทัศน์ ผ่านดาวเทียมกับการ
สื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญา ดังกล่าว บริษัทย่อยมีภาระผูกพันที่จะต้องลงทุนจัดหา
ติดตั้ง และควบคุมตลอดจนบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ตามที่ตกลงในสัญญา นอกจากนี้ บริษัทย่อยจะต้องโอนกรรมสิทธ
ในเครื่องมือและอุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่ กสท. นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการ
สัญญานี้มีกำหนดระยะเวลายี่สิบสอง (22) ปี เริ่มตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการหรือครบกำหนดสิบสอง (12)
เดือนนับตั้งแต่วันที่ในสัญญาแล้วแต่วันใดจะ เกิดขึ้นก่อน โดยบริษัทย่อยไม่มีสิทธิเลิกสัญญาเว้นแต่จะเข้ากรณีตามที่
กำหนดในสัญญา ในการนี้ บริษัทย่อยมีสิทธิที่จะเรียกเก็บค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ จากผู้ใช้บริการตามที่ระบ
ไว้ในสัญญา
ค) บริษัทย่อยสองแห่งมีสัญญาร่วมลงทุนในการให้บริการฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์กับการ สื่อสารแห่ง
ประเทศไทย (กสท.) ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญาดังกล่าว บริษัทย่อย มีภาระผูกพันที่จะต้องลงทุนจัดหา ติดตั้ง และ
ควบคุม ตลอดจนบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ตามที่ตกลงในสัญญา นอกจากนี้บริษัทย่อยจะต้องโอนกรรมสิทธิใน
เครื่องมือและอุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่ กสท. นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการ
- 27 -
สัญญานี้มีกำหนดระยะเวลาสิบ (10) ปี เริ่มตั้งแต่วันแรกที่เปิดบริการ โดยบริษัทย่อยไม่มีสิทธิเลิกสัญญาเว้น
แต่จะเข้ากรณีตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ในการนี้ บริษัทย่อยมีสิทธิที่จะเรียกเก็บค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
จากผู้ใช้บริการตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ง) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งมีสัญญาร่วมค้ากับหน่วยงานราชการของต่างประเทศแห่งหนึ่งเพื่อวางระบบและ
ให้บริการด้านโทรคมนาคมในพื้นที่ที่ตกลงกัน ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญาดังกล่าว บริษัทย่อยมีภาระผูกพันที่จะต้องลงทุน
จัดหา ติดตั้ง และควบคุม ตลอดจนบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์การโทรคมนาคมดังกล่าวตามที่ตกลงในสัญญา นอกจากนี้
บริษัทจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ในระบบและอุปกรณ์โทรคมนาคมดังกล่าวให้กับหน่วยงานราชการที่เป็นคู่สัญญาในวันที่สิ้นสุดระยะ
เวลาสัมปทาน
จ) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้ทำสัญญาให้บริการเป็นศูนย์บริการรับสั่งอาหารกับบริษัทในประเทศบางแห่ง
สัญญาดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาห้า (5) ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2540 โดยไม่มีสิทธิเลิกสัญญา เว้นแต่จะเข้า
กรณีเลิกสัญญาตามที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยบริษัทจะได้รับค่าตอบแทนตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ฉ) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งมีสัญญาในการเป็นตัวแทนจำหน่ายและจ่ายรางวัลสลากบำรุง การกุศลแบบ
อัตโนมัติกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กองสลาก) ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญาดังกล่าว บริษัทมีภาระผูกพันต่าง ๆ
เช่น จะต้องจัดหาและติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติ และจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กำหนดในสัญญา
สัญญานี้มีกำหนดระยะเวลาสิบ (10) ปี โดยบริษัทย่อยจะยกเลิกได้ตาม เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาเท่านั้น
ในระหว่างอายุของสัญญาบริษัทย่อยมีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายสลากดังกล่าวตามที่ระบุในสัญญา
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายน 2542 บริษัทย่อยได้มีหนังสือแจ้งการ ยกเลิกสัญญาดังกล่าวกับกองสลาก
เนื่องจากกองสลากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการในสัญญา ในขณะนี้ บริษัทย่อยอยู่ในระหว่างดำเนินการทาง
กฎหมายเพื่อเรียกชดเชยค่าเสียหายจากโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยได้ตัดจำหน่ายผลขาดทุนในโครงการ
ดังกล่าวทั้งจำนวนแล้ว
- 28 -
6.12 ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
ก. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 บริษัทมีสัญญาเช่าพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้ามหานคร หลายฉบับ
มีกำหนดเวลาสาม (3) ปี เริ่มในเดือนธันวาคม 2542 โดยเสียค่าเช่ารวม ปีละประมาณ 16.7 ล้านบาท
ข. บริษัทและบริษัทย่อยบางแห่งมีเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ยังไม่ได้ใช้เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 222
ล้านบาท (192 ล้านบาท เฉพาะของบริษัท) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 และ 366 ล้านบาท (350 ล้านบาท เฉพาะ
ของบริษัท) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2542
ค. บริษัทและบริษัทย่อยบางแห่งมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าจากการประกัน การประมูลงานกับลูกค้า
เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 798 ล้านบาท (530 ล้านบาท เฉพาะของบริษัท) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 และ 455
ล้านบาท (212 ล้านบาท เฉพาะของบริษัท) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2542 ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยบางแห่งได้ให้ธนาคาร
ออกหนังสือค้ำประกันเพื่อค้ำประกันการประมูลงานดังกล่าว
ง. บริษัทมีภาระผูกพันภายใต้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับธนาคาร บางแห่งเป็นจำนวน
งินเทียบเท่าประมาณ 217 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 และ 200 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2542
6.13 การจัดประเภทบัญชีใหม่
รายการบัญชีบางรายการในงบการเงินสำหรับปี 2543 ได้จัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงรายการ
ในงบการเงินสำหรับปี 2542