ในปี 2567 ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้น
ล็อกซเล่ย์ได้ก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายเหล่านี้ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้ความหลากหลายทางธุรกิจ และวิสัยทัศน์ที่เน้นความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการที่สอดรับกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ผ่านความทุ่มเท ความพยายามของทุกฝ่าย และการสนับสนุนจากพันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งภายในด้วยการบริหารจัดการทางการเงินควบคู่ไปกับวินัยทางการเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินอันเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการสร้าง “การเติบโตอย่างมั่นคง”
บริษัทยังคงเดินหน้ายกระดับความมั่นคงแข็งแกร่งของธุรกิจด้วยการสร้างบูรณาการระหว่างธุรกิจหลักในกลุ่มบริษัท โดยดึงศักยภาพ ความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากร ทรัพยากร ตลอดจนจุดแข็ง ความชำนาญที่แตกต่างและโดดเด่นของแต่ละสายธุรกิจ มาสนับสนุนเสริมความแข็งแกร่งแก่กัน มุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ กลุ่มลูกค้าใหม่ นวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มทางธุรกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการทำกำไร สร้างการ “เติบโตอย่างเชี่ยวชาญ” ควบคู่ไปกับการรักษาความสัมพันธ์ ผสานความร่วมมือกับคู่ค้าพันธมิตรในระยะยาว
นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการสร้างผลประกอบการที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มแล้ว บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเพื่อ “การเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยบริหารจัดการตามแนวทางกำกับดูแลกิจการที่ดี ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทได้กำหนดเป็นเป้าหมายสำคัญในระยะยาว ที่จะดูแลความเป็นอยู่และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสังคม สนับสนุนโอกาสและความเท่าเทียมกันในสังคมผ่านกิจกรรมสนับสนุนนักกีฬาคนพิการ กิจกรรมเพื่อชุมชนและผู้สูงอายุ ตลอดจนกำหนดนโยบายการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและการสร้างขยะ สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือก เพื่อการอยู่ร่วมและเติบโตไปพร้อมกันของทุกคน
ทั้งนี้ บมจ. ล็อกซเล่ย์ ได้รับการประเมินและคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2567 ซึ่งแม้จะเป็นปีแรก แต่ผลการประเมินดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะขับเคลื่อนสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน และสร้างคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภูมิใจอย่างมาก
สำหรับปี 2568 การสร้างความสำเร็จในด้านความมั่นคงและยั่งยืนตามเป้าหมายในมิติของผลประกอบการ การพัฒนานวัตกรรม การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยทรัพยากรและสินทรัพย์ที่มี รวมถึงการพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท และเป็นรากฐานสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
สำหรับทุกความสำเร็จในปี 2567 ที่เกิดขึ้น ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้น ผู้ร่วมทุน คู่ค้า คู่ธุรกิจ สถาบันการเงิน ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่สนับสนุนการดำเนินงานและมอบความไว้วางใจมาโดยตลอด รวมถึงผู้บริหาร และพนักงานทุกท่านที่ทุ่มเทกำลัง ความสามารถและความเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เป้าหมายและสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนร่วมกัน
(นายธงชัย ล่ำซำ)
ประธานกรรมการ
(นายสุรช ล่ำซำ)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร